ผู้เขียน หัวข้อ: หมอประจำบ้าน: กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation Syndrome)  (อ่าน 14 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 755
    • ดูรายละเอียด
หมอประจำบ้าน: กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation Syndrome)

กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation Syndrome) หรือที่มักเรียกว่า "ภาวะหายใจเกิน" หรือ "โรคหอบจากอารมณ์" เป็นภาวะที่ผู้ป่วยหายใจเร็วและลึกเกินกว่าความต้องการของร่างกายในขณะนั้น ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับภาวะทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรือภาวะตื่นตระหนก (Panic Attack)
ภาวะนี้จะทำให้เกิดความผิดปกติของสมดุลเคมีในเลือด โดยเฉพาะการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO_2) ออกไปทางลมหายใจมากเกินไป ทำให้ระดับ CO_2 ในเลือดลดลง และเกิดภาวะ เลือดเป็นด่างจากการหายใจ (Respiratory Alkalosis) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการทางร่างกายที่ตามมา


อาการที่พบบ่อยของกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

อาการมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 20-30 นาที และอาจมีอาการดังต่อไปนี้:


1.   อาการทางระบบหายใจ:
   หายใจหอบเร็ว หายใจลึก หรือหายใจถี่
   รู้สึกหายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม รู้สึกว่าขาดอากาศหายใจ


2.   อาการทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ:
   ชาหรือปวดเสียว (Paresthesia): ชาบริเวณริมฝีปาก ปลายมือ ปลายเท้า หรือรอบปาก
   มือจีบเกร็ง (Carpopedal Spasm): กล้ามเนื้อมือและเท้าหดเกร็ง งอเข้าหากัน
   เวียนศีรษะ หน้ามืด มึนงง รู้สึกหวิว หรือคล้ายจะเป็นลม


3.   อาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด:
   ใจสั่น หัวใจเต้นแรงและเร็วกว่าปกติ
   เจ็บหรือแน่นหน้าอก คล้ายอาการโรคหัวใจ (ซึ่งทำให้ผู้ป่วยยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น)

4.   อาการทางอารมณ์:
   รู้สึกกังวล กระวนกระวาย ตึงเครียด หรือตื่นตระหนกอย่างรุนแรง
สาเหตุหลัก
สาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับ ปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ โดยเฉพาะ:
•   ความเครียดรุนแรง หรือเรื้อรัง
•   ภาวะวิตกกังวล หรือโรควิตกกังวลทั่วไป
•   โรคแพนิค (Panic Disorder) หรือภาวะตื่นตระหนกฉับพลัน
•   สภาวะกดดัน ทางจิตใจอย่างหนัก


วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อมีอาการ

อาการนี้ มักไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สร้างความทุกข์ทรมานอย่างมาก การรักษาเบื้องต้นมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มระดับ $CO_2$ ในเลือดให้กลับมาสมดุล และลดอัตราการหายใจ:

1.   ตั้งสติและพยายามผ่อนคลาย: ผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดควรพยายามควบคุมความตกใจ เพราะความกลัวจะยิ่งทำให้อาการกำเริบ

2.   ฝึกหายใจช้าลง:

   หายใจโดยใช้หน้าท้อง (Diaphragmatic Breathing): พยายามหายใจเข้าช้า ๆ นับ 1-2-3 ทางจมูก แล้วหายใจออกยาว ๆ นับ 4-5-6 ทางปาก ให้ช้ากว่าการหายใจปกติ และใช้การหายใจจากท้องแทนการหายใจจากหน้าอก
   กั้นหายใจ: พยายามกลั้นหายใจสั้น ๆ เป็นระยะเพื่อเพิ่ม CO_2 ในร่างกาย

3.   หลีกเลี่ยงการใช้ถุงกระดาษ (ในปัจจุบัน): เดิมเคยแนะนำให้หายใจในถุงกระดาษเพื่อเพิ่ม CO_2 แต่ปัจจุบันแพทย์บางส่วนไม่แนะนำ เพราะหากอาการหายใจเร็วเกิดจากโรคทางกาย (เช่น โรคหัวใจ หรือโรคหอบหืด) การทำเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายได้ ควรเน้นที่การหายใจให้ช้าลงตามคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก
ข้อควรระวัง: หากมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรก หรือสงสัยว่าอาการเกิดจากโรคทางกายอื่น ๆ (เช่น โรคหัวใจหรือปอด) ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่ชัดก่อนเสมอ


 

โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google